พื้นไม้เอ็นจิเนียร์, พื้นไม้เทียม, ไม้โอ๊ค


พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ คืออะไร ?
พื้นไม้วิศวกรรม (Engineered Wood Flooring) คือ ไม้สำเร็จรูปที่ผลิตจากไม้จริงและไม้แปรรูปมาประกอบกันหลายชั้น โดยชั้นบนสุดเป็นไม้จริงที่นำมาขัดให้เรียบเนียน สวยงาม ส่วนชั้นล่างเป็นไม้อัดหรือไม้แปรรูปชนิดต่าง ๆ ที่ทำหน้าที่รองรับน้ำหนักและป้องกันการบิดงอของพื้นไม้
ไม้เอ็นจิเนียร์ ผ่านการแปรรูปและปรับสภาพทางวิทยาศาสตร์ให้มีความคงทน แข็งแรง และสวยงามยิ่งขึ้น โดยวิศวกรผู้ผลิตจะคำนึงถึงปัจจัยเหล่านี้เป็นอันดับต้น ๆ จึงทำให้ ไม้เอ็นจิเนียร์ มีลักษณะและคุณสมบัติใกล้เคียงกับไม้จริงมากจนแทบแยกไม่ออก
พื้นไม้หลายชั้น มีข้อดีเด่น ๆ ดังนี้
- ความคงทน พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ ผ่านการแปรรูปและปรับสภาพทางวิทยาศาสตร์ให้มีความคงทนสูง ทนต่อแรงกระแทก แรงกดทับ และความชื้นได้ดี
- ความแข็งแรง พื้นไม้เทียมประกอบด้วยชั้นไม้อัดหรือไม้แปรรูปชนิดต่าง ๆ ที่ทำหน้าที่รองรับน้ำหนักและป้องกันการบิดงอของพื้นไม้ ทำให้พื้นมีความแข็งแรงทนทาน
- ความสวยงาม พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ ผลิตจากไม้จริงหลายชั้น โดยชั้นบนสุดเป็นไม้จริงที่นำมาขัดให้เรียบเนียน สวยงาม ทำให้พื้นมีลวดลายและสีสันที่ใกล้เคียงกับไม้จริง
การใช้งานเด่นๆ
ส่วยใหญ่นั้นนิยมใช้ตกแต่งบ้าน โดยเฉพาะในส่วนของพื้นบ้าน ห้องนั่งเล่น ห้องทำงาน หรือแม้กระทั่งห้องนอน เพราะให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ อบอุ่น สบายตา อีกทั้งยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
นอกจากนี้ ยังสามารถนำมาใช้ตกแต่งพื้นที่อื่น ๆ ได้ด้วย เช่น พื้นระเบียง พื้นทางเดิน พื้นห้องครัว เป็นต้นพื้นไม้เทียม
พื้นไม้วิศวกรรม 19MM

ตัวอย่าง พื้นไม้วิศวกรรม 14MM

ข้อดีของพื้นไม้เทียม Arrow Wood
ข้อดีของพื้นไม้ของ Arrow Wood
- ความสวยงามที่มาพร้อมกับความทันสมัย
พื้นไม้ Arrow Wood มีให้เลือกหลากหลายสีสันและลวดลาย ให้คุณสามารถเลือกให้เข้ากับสไตล์และบรรยากาศของบ้านหรือสถานที่ของคุณได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะเป็นไม้ลายธรรมชาติที่สวยงาม หรือไม้ที่ถูกย้อมสีให้เป็นสีที่คุณต้องการ เช่น พื้นไม้สีขาวหรือสีเทา ช่วยให้คุณสามารถปรับแต่งห้องให้เข้ากับสไตล์ที่คุณต้องการได้อย่างง่ายดาย
- ความหรูหราและอบอุ่น
พื้นไม้ Arrow Wood ช่วยสร้างความรู้สึกของความหรูหราและอบอุ่นให้กับบ้านของคุณได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งห้องนั่งเล่นหรือห้องนอน ช่วยให้บ้านของคุณดูมีเสน่ห์และน่าอยู่ยิ่งขึ้น
- การติดตั้งที่ง่ายและรวดเร็ว
พื้นไม้ Arrow Wood ติดตั้งได้ง่ายและรวดเร็ว โดยคุณสามารถติดตั้งเองได้ หรือหากไม่สะดวก ทาง Arrow Wood ก็มีทีมงานไว้คอยให้คำปรึกษาอยู่ตลอดเวลา
ตัวอย่าง พื้นไม้เทียม จาก Arrow Wood
ไม้โอ๊ค
นอกจากไม้จริงและไม้เอ็นจิเนียร์แล้ว เรายังจัดจำหน่ายไม้ดิบและไม้ตกแต่งภายในอีกด้วย ซึ่งไม้ดิบของเราก็มีหลายชนิดและราคาก็แตกต่างกันออกไป เช่น, ไม้โอ๊ค 27mm:
ไม้โอ๊คเป็นแผ่นไม้ที่ผ่านการเผาและทำให้แห้งแล้ว ตัดใหม่หลังจากผ่านกระบวนการเผาเพื่อให้สูญเสียน้อยที่สุด ไม้โอ๊คที่คุณสามารถหาได้ในเกรดไม้ที่แตกต่างกัน ดูไม้ชนิดอื่นๆ ของเราด้วย

พื้นไม้วิศวกรรมแกนไม้อัด: ทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับบ้านของคุณ
เมื่อพูดถึงการเลือกพื้นที่เหมาะสมสำหรับบ้านของคุณ พื้นไม้สองประเภทที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ได้แก่ พื้นไม้เนื้อแข็งและพื้นไม้วิศวกรรม
พื้นไม้เนื้อแข็ง:
ไม้เนื้อแข็งแท้: ผลิตจากไม้เนื้อแข็งชิ้นเดียว เช่น ไม้โอ๊ค ไม้เมเปิ้ล หรือไม้วอลนัท
ความหนา: มักมีความหนา 3/4 นิ้ว ให้ความรู้สึกที่แข็งแรงและมั่นคง
ลักษณะ: แสดงให้เห็นถึงความงามและเอกลักษณ์ตามธรรมชาติของไม้ รวมถึงลายเส้น กิ่งไม้ และสีสันที่แตกต่างกัน
พื้นไม้วิศวกรรมแกนไม้อัด:
โครงสร้างหลายชั้น: ประกอบด้วยหลายชั้น:
ชั้นผิวหน้า: ไม้จริงแผ่นบาง
แกนกลาง: ทำจากไม้อัด
ชั้นรองรับ: ชั้นล่างสุดเพื่อเสริมความแข็งแรง
ความหนา: โดยทั่วไปบางกว่าพื้นไม้เนื้อแข็ง มีความหนาตั้งแต่ 3/8 นิ้ว ถึง 3/4 นิ้ว
ลักษณะ: มีลักษณะใกล้เคียงกับพื้นไม้เนื้อแข็ง โดยสามารถแสดงให้เห็นถึงความงามตามธรรมชาติของไม้จริงบนชั้นผิวหน้า
ความเสถียรและความต้านทานต่อความชื้น
พื้นไม้เนื้อแข็ง: มีแนวโน้มที่จะขยายตัวและหดตัวได้ง่ายเมื่อมีความชื้นและอุณหภูมิเปลี่ยนแปลง ซึ่งอาจนำไปสู่การโก่งตัว บิดงอ หรือแตกร้าว
พื้นที่ที่มีความชื้นสูง: ไม่แนะนำสำหรับพื้นที่ที่มีความชื้นสูง เช่น ห้องน้ำหรือห้องใต้ดิน
พื้นไม้วิศวกรรมแกนไม้อัด: มีความเสถียรภาพมากกว่า เนื่องจากแกนกลางที่ทำจากไม้อัดช่วยลดปัญหาที่เกิดจากความชื้นได้
เหมาะสมสำหรับสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย: สามารถใช้ได้ในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย รวมถึงห้องใต้ดินและพื้นที่ที่มีความชื้นผันผวน
การติดตั้งและการขัดเงา
พื้นไม้เนื้อแข็ง: ต้องการการติดตั้งโดยช่างผู้เชี่ยวชาญ โดยมักจะใช้การตอกตะปูหรือติดกาวกับพื้นฐาน
การขัดเงา: สามารถขัดและตกแต่งใหม่ได้หลายครั้ง ทำให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น
พื้นไม้วิศวกรรมแกนไม้อัด: ติดตั้งง่ายกว่า โดยมักจะใช้ระบบพื้นลอยตัวหรือติดกาวกับพื้นฐาน
การขัดเงา: สามารถขัดเงาได้ แต่จำนวนครั้งในการขัดเงานั้นจำกัด เนื่องจากชั้นผิวหน้ามีขนาดบาง
ราคา
พื้นไม้เนื้อแข็ง: โดยทั่วไปมีราคาสูงกว่าพื้นไม้วิศวกรรม เนื่องจากต้นทุนวัสดุที่สูงกว่าและค่าแรงในการติดตั้งที่สูงกว่า
พื้นไม้วิศวกรรมแกนไม้อัด: โดยทั่วไปมีราคาประหยัดกว่า ทำให้เป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมสำหรับเจ้าของบ้าน
การเลือกพื้นที่เหมาะสม
การเลือกพื้นที่เหมาะสมระหว่างพื้นไม้เนื้อแข็งและพื้นไม้วิศวกรรมแกนไม้อัดขึ้นอยู่กับความต้องการและความชอบเฉพาะของคุณ พิจารณาปัจจัยต่อไปนี้:
งบประมาณ: พื้นไม้วิศวกรรมแกนไม้อัดโดยทั่วไปมีราคาประหยัดกว่า
ความต้านทานต่อความชื้น: หากคุณอาศัยอยู่ในสภาพอากาศที่มีความชื้นสูงหรือมีห้องใต้ดิน พื้นไม้วิศวกรรมแกนไม้อัดอาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า
ความเสถียร: พื้นไม้วิศวกรรมแกนไม้อัดมีความเสถียรภาพมากกว่า ทำให้เหมาะสมสำหรับสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย
การขัดเงา: หากคุณวางแผนที่จะขัดเงาพื้นหลายครั้ง พื้นไม้เนื้อแข็งเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า
ลักษณะ: ทั้งสองตัวเลือกให้รูปลักษณ์ที่เป็นธรรมชาติและสวยงาม แต่พื้นไม้เนื้อแข็งอาจให้ลักษณะที่โดดเด่นและมีความหลากหลายมากกว่า
โดยการชั่งน้ำหนักปัจจัยเหล่านี้อย่างรอบคอบ คุณสามารถเลือกพื้นที่เหมาะสมที่สุดสำหรับไลฟ์สไตล์ งบประมาณ และความต้องการด้านสุนทรียศาสตร์ของคุณ
ข้อควรพิจารณาเพิ่มเติม:
ความยั่งยืน: พิจารณาเลือกไม้ที่ได้มาอย่างยั่งยืนสำหรับทั้งสองตัวเลือก
แผ่นรองพื้น: แผ่นรองพื้นที่เหมาะสมสามารถเพิ่มประสิทธิภาพและความสบายในการใช้งานของพื้นทั้งสองประเภท
การติดตั้งโดยมืออาชีพ: เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ขอแนะนำให้ว่าจ้างช่างผู้เชี่ยวชาญในการติดตั้งทั้งพื้นไม้เนื้อแข็งและพื้นไม้วิศวกรรมแกนไม้อัด
ด้วยการทำความเข้าใจถึงความแตกต่างที่สำคัญระหว่างพื้นไม้เนื้อแข็งและพื้นไม้วิศวกรรมแกนไม้อัด คุณสามารถตัดสินใจได้อย่างรอบคอบซึ่งจะช่วยเพิ่มความสวยงามและมูลค่าให้กับบ้านของคุณได้ในระยะยาว
หมายเหตุ: ข้อความนี้เน้นเฉพาะพื้นไม้วิศวกรรมแกนไม้อัดที่ใช้ไม้อัดเป็นแกนกลาง ไม่รวมถึง MDF, HDF หรือไม้แผ่นบาง
พื้นไม้หลายชั้นราคาแพงไหม ?
ราคาของพื้นไม้ชนิดนี้สามารถแปรผันได้ตามคุณภาพของวัสดุที่ใช้และแบรนด์ที่เลือกซื้อ โดยทั่วไปแล้วมีราคาที่สูงกว่าพื้นไม้ลามิเนตหรือวัสดุไม้ประเภทอื่น ซึ่งสาเหตุที่ราคาสูงกว่าเนื่องจากพื้นไม้นั้นมีกระบวนการผลิตที่ซับซ้อนมากขึ้น และใช้วัสดุระดับสูงเพื่อให้ได้คุณภาพและความทนทานที่ดีกว่า
อย่างไรก็ตาม หากท่านกำลังมองหาพื้นไม้ที่มีคุณภาพดี ราคาสบายกระเป๋า Arrow Wood Thailand พร้อมให้คำปรึกษา เพราะเราคอยผลิตสินค้าคุณภาพให้ลูกค้าทุกท่านได้เลือกซื้อตามความต้องการ
ท่านสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Arrow Wood สาขากรุงเทพฯ โทร 089-1334481, สาขาหัวหิน โทร 032 828 077 / 0617798884
พื้นไม้เทียมของ Arrow Wood แตกต่างอย่างไร ?
ไม้แปรรูปเป็นวัสดุที่อ่อนไหวต่อการผลิต หากไม่ได้รับการผลิตที่ดีอาจทำให้ไม้ไม่มีคุณภาพ เช่น ไม้อาจโค้งงอ บิด หรือแตกเป็นชั้น ๆ ดังนั้น Arrow Wood จึงมีทีมวิศวกรและทีมช่างมืออาชีพคอยตรวจคุณภาพงานอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้มั่นใจว่าทุกชิ้นที่ผลิตออกมามีความแข็งแรง ทนทาน เป็นไม้คุณภาพดี และเป็นที่ชื่นชอบของลูกค้า
แนวคิดพื้นฐานของการผลิตไม้ที่ Arrow Wood คือ การติดแผ่นไม้แบบสลับลาย 90 องศา โดยแผ่นแรกติดจากด้านหน้าถึงปลายด้านหนึ่ง แผ่นที่สองติดจากด้านซ้ายไปขวา และแผ่นที่สามติดจากด้านหลัง โดยใช้ไม้อัดคุณภาพดีหลายชั้นเพื่อเพิ่มความแข็งแรง นอกจากนี้ส่วนด้านบนของไม้อัดสามารถใส่ไม้จริงได้หนา 2-4 มิลลิเมตร โดย Arrow Wood มีผลิตภัณฑ์ไม้อัดขนาด 14 มิลลิเมตร (ไม้จริง 2 มิลลิเมตร) และขนาด 19 มิลลิเมตร (ไม้จริง 4 มิลลิเมตร) เปรียบเสมือนไม้กระดานกว้าง 29 เซนติเมตรที่ผลิตจากไม้แผ่นเดียว ซึ่ง Arrow Wood ผลิตออกมาเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า