พื้นไม้บีช
ไม้บีช(ยุโรป)
ไม้บีชเป็นไม้ที่เรา Arrow Wood นำแปรรูปอย่างช้านานพร้อมกับไม้โอ๊ค เมเปิ้ล และสน โดยไม้บีชเป็นไม้แรกๆที่เรานำมาแปรรูปเป็นไม้แอนจิเนียร์
สีและลายของไม้บีชนั้นเป็นที่รู้กันว่ามีลายที่ค่อนข้างถี่และดูยุ่งเยิงดังนั้นเพื่อที่จะทำให้ลายไม้มีความระเบียบสวยงามขึ้นจำเป็นต้องนำไปผ่านกระบวนการอบไม้ก่อน
ด้วยคุณลักษณะเฉพาะตัวที่มีสีขาวอมเหลืองและเสี้ยนไม้สีแดงอ่อนทำให้ไม้บีชเป็นที่จนจำได้อย่างง่ายดาย โดยเมื่อมองกลับไปเมื่อช่วง 10 ปีที่ผ่านมาไม้บีชแอนจิเนียร์เป็นที่ได้รับความนิยมอย่างมากในแถบตอนบนของทวีปยุโรป ซึ่งในปัจจุบันนี้ไม้บีชเริ่มที่จะกลับมามีความนิยมขึ้นอีกครั้ง
ทางเราจัดจำหน่ายไม้บีชแอนจิเนียร์ขนาดหน้ากว้าง 10-29cm.
ความแข็งของไม้มีระดับ 5-10: 7.5
สามารถใช้กับเครื่องทำความร้อนพื้น
สามารถเปลี่ยนสี
การเคลือบน้ำมันออกชิเดชัน
การเคลือบน้ำมันออย
การเคลือบพียู
ตัวเลือกในการออกแบบความกว้าง: 9-29cm
การเลือกความกว้างของไม้: 9-29cm
ไม่สามารถรมควัน
ไม่สามารถเห็นลายเสี้ยนไม้
การจัดจำหน่ายตามเกรด: A, AB, ABC
ไม้มีความแข็งแรง
ความคงทนของไม้บีชนั้นเมื่อเทียบกับไม้โอ๊คตัวไม้บีชจะมีความคงทนค่อนข้างใกล้เคียงกันโดยบีชจะทนกว่าเพียงเล็กน้อยและมีตาไม้ที่น้อยหรือเกือบจะไม่มีเลย ไม้บีชนั้นเป็นไม้เนื้อแข็งจึงเหมาะอย่างยิ่งที่มาทำเป็นไม้ปูพื้นแผ่นยาวหรือนำมาแปรรูปเป็นไม้แอนจิเนียร์
นอกจากความคงทนของเนื้อไม้แล้วตัวไม้ยังมีความยืดหยุ่นด้วยดังนั้นไม้บีชจึงสามารถช่วยปกป้องลอยขีดข่วนได้ด้วยตัวของไม้เอง ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ทำให้ไม้บีชเป็นที่นิยมอย่างมากในโปรเจคบ้านพักที่อยู่อาศัยหรือออฟฟิตรวมไปถึงพื้นโรงงาน สนามกีฬา ยิม ฟิตเนส และอื่นๆ
สำหรับไม้บีชนั้นการนำมาแปรรูปเป็นไม้ปูพื้นแอนจิเนียร์นั้นจะเหมาะสมกว่านำไปปูแบบไม้จริง ซึ่งเราจะอธิบายไว้ด้านล่างนี้
ไม้บีชเป็นไม้ที่มีน้ำหนักปานกลางถึงหนัก ตัวไม้มีสีอ่อนเส้นใยหน้าไม้ถูกปิดไว้ กันรอยขีดข่วนได้ดี สามารถนำมาย้อมทำสีและเคลือบน้ำได้แต่ว่าไม่ได้เป็นที่นิยมมากหนัก โดยตัวไม้มีน้ำหนักประมาณ 0.73k/cm3 และนอกจากนำมาใช้กับปูพื้นแล้วไม้บีชยังนำไปใช้อย่างกว้างขวางไม่ว่าจะเป็นงานเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ
ข้อควรรู้เกี่ยวกับไม้บีช
ไม้บีชยุโรปหรืออีกชื่อหนึ่ง “Fagus Syvlatica” เป็นไม้เนื้อแข็งแต่ว่าโครงสร้างเนื้อภายในนั้นกับไม่มั่นคงโดยตัวไม้ค่อนข้างมีความยืดขยาดหดตัวสูง เมื่อเทียบกับไม้เนื้อแข็งอื่นๆ เพราะฉะนั้นการนำมาแปรรูปเป็นไม้แอนจิเนียร์จะดีกว่านำไปปูพื้นไม้จริงเนื่องจาก ตัวชั้นเลเยอร์ไม้อัดของแอนจิเนียร์จะช่วยผยุงไม้ให้ตัวท็อปไม้จริงโก่งหรือขยายตัว
ทว่าตัวไม้บีชนั้นเป็นไม้เนื้อแข็งแต่สามารถตัด เจาะได้อย่างง่ายดาย โดยเมื่อเรานำไม้บีชไปผ่านกระบวนการอบได้ที่แล้วตัวไม้ก็พร้อมที่จะนำไปเคลือบทำสีและขัดได้ในลำดับถัดไป นอกจากยังสามารถลดปัญหาจากแมลงปลวกได้ด้วยการทายูริเทนบนผิวไม้
เมื่อเรานำไม้บีชไปเทียบกับไม้เนื้อแข็งประเภทอื่นนั้นไม้บีชจะมีเปอร์เซ็นเฉลี่ยการเปลี่ยนสีมากที่สุด โดยปัจจัยหลักที่ทำให้เปลี่ยนสีคืออุณหภูมิ โดยเมื่ออุณหภูมิยิ่งสูงจะส่งผลให้สีของไม้ยิ่งสูงขึ้นตามไปด้วยหรืออีกปัจจัยคือการนำไปปูทับบนพื้นที่ติดตั้งตัวทำความร้อนตามประเทศเมืองหนาวก็จะส่งผลกับไม้บีชได้เหมือนกัน
กระพี้กับแก่นไม้บีชเมื่อผ่านการอบนั้นจะมีสีที่ซี๊ดเหลืองไปจนถึงแดง-ขาว หรือ แดง-น้ำตาลสำหรับต้นที่มีอายุเยอะ(80ปีขึ้นไป)จะมีสีและลายไม้ที่เข้มกว่า สำหรับตัวผิวไม้นั้นจะมีลักษณะรูเล็กๆที่ไม่สามารถสังเกตด้วยตาเปล่าได้