วิธีเลือกซื้อพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ให้เหมาะกับการใช้งาน

วิธีเลือกซื้อพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ให้เหมาะกับการใช้งาน

พื้นไม้เอ็นจิเนียร์เป็นวัสดุปูพื้นที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน เนื่องจากให้ความสวยงาม หรูหรา และให้ความรู้สึกอบอุ่นเหมือนบ้านไม้ธรรมชาติ แต่ก็มีราคาสูงกว่าพื้นไม้ลามิเนตและพื้นไวนิลลายไม้

การเลือกซื้อพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ให้เหมาะกับการใช้งานนั้น จำเป็นต้องพิจารณาปัจจัยหลายอย่าง ดังนี้

  • ประเภทของไม้ พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ผลิตจากไม้เนื้อแข็งหลายชนิด เช่น ไม้สัก ไม้โอ๊ค ไม้มะฮอกกานี ไม้แอช เป็นต้น แต่ละชนิดจะมีสีสันและลวดลายแตกต่างกันไป โดยไม้สักเป็นไม้เนื้อแข็งที่มีสีน้ำตาลเข้ม ลวดลายสวยงาม ทนทานต่อความชื้นและปลวก ส่วนไม้โอ๊คเป็นไม้เนื้อแข็งที่มีสีน้ำตาลอ่อน ลวดลายเรียบง่าย ทนทานต่อการใช้งาน

  • เกรดของไม้ พื้นไม้เอ็นจิเนียร์แบ่งออกเป็นหลายเกรด ตามคุณภาพของไม้ที่นำมาใช้ โดยเกรด A จะมีคุณภาพสูงสุด เกรด B คุณภาพรองลงมา ไปจนถึงเกรด C คุณภาพต่ำสุด การเลือกเกรดของไม้ขึ้นอยู่กับงบประมาณและความต้องการ เช่น เกรด A มีราคาสูงกว่าเกรด B แต่ก็มีความสวยงามและทนทานกว่า
  • ความหนาของพื้น พื้นไม้เอ็นจิเนียร์มีให้เลือกหลายความหนา ตั้งแต่ 8 มิลลิเมตร ไปจนถึง 20 มิลลิเมตร ความหนาของพื้นมีผลต่อความแข็งแรง ทนทาน และเสียงสะท้อนของพื้น โดยความหนาที่แนะนำคือ 12-15 มิลลิเมตร สำหรับการใช้งานทั่วไป
  • ความกว้างของแผ่น พื้นไม้เอ็นจิเนียร์มีให้เลือกหลายความกว้าง ตั้งแต่ 120 มิลลิเมตร ไปจนถึง 220 มิลลิเมตร ความกว้างของแผ่นมีผลต่อความสวยงามและความสมดุลของลายไม้ เช่น หากต้องการปูพื้นที่กว้าง ควรเลือกความกว้างของแผ่นอย่างน้อย 150 มิลลิเมตร เพื่อให้ลายไม้ดูสมดุลและสวยงาม
  • คุณสมบัติอื่นๆ พื้นไม้เอ็นจิเนียร์บางรุ่นอาจมีคุณสมบัติพิเศษ เช่น กันน้ำ กันรอยขีดข่วน ทนต่อแรงกระแทก เป็นต้น ควรพิจารณาคุณสมบัติอื่นๆ เหล่านี้ด้วย เพื่อให้เหมาะกับการใช้งานและความต้องการ เช่น หากต้องการปูพื้นในห้องครัวหรือห้องน้ำ ควรเลือกพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ที่มีคุณสมบัติกันน้ำ เพื่อป้องกันการบวมหรือโก่งตัวของพื้น

เคล็ดลับในการเลือกซื้อพื้นไม้เอ็นจิเนียร์

  • ควรตรวจดูพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ก่อนซื้อทุกครั้ง โดยสังเกตจากสีสัน ลวดลาย และความสม่ำเสมอของพื้นไม้ หากพบรอยแตกร้าว รอยต่อไม่เรียบ หรือสีไม่สม่ำเสมอ ควรหลีกเลี่ยงการซื้อ

  • ควรเลือกพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ที่ผลิตจากไม้เนื้อแข็งชั้นดี เช่น ไม้สัก ไม้โอ๊ค ไม้มะฮอกกานี ไม้แอช เป็นต้น เนื่องจากมีความแข็งแรง ทนทาน และมีอายุการใช้งานยาวนาน

  • ควรเลือกพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ที่มีความหนาที่เหมาะสมกับการใช้งาน หากต้องการปูพื้นในพื้นที่ที่มีการใช้งานหนัก เช่น พื้นที่ที่มีเด็กหรือสัตว์เลี้ยง ควรเลือกพื้นที่มีความหนาอย่างน้อย 15 มิลลิเมตร

  • ควรเลือกพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ที่มีความกว้างที่เหมาะสมกับพื้นที่ที่ต้องการปู หากต้องการปูพื้นที่ที่มีขนาดกว้าง ควรเลือกพื้นที่มีความกว้างอย่างน้อย 150 มิลลิเมตร

  • หากต้องการพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ที่มีคุณสมบัติพิเศษ เช่น กันน้ำ กันรอยขีดข่วน ทนต่อแรงกระแทก เป็นต้น ควรพิจารณาคุณสมบัติเหล่านี้ให้เหมาะสมกับการใช้งาน

ตัวอย่างการเลือกซื้อพื้นไม้เอ็นจิเนียร์

  • หากต้องการปูพื้นห้องนอนที่ต้องการความอบอุ่นและหรูหรา ควรเลือกพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ที่ทำจากไม้สักหรือไม้มะฮอกกานี เนื่องจากไม้ทั้งสองชนิดมีสีสันและลวดลายที่สวยงาม

  • หากต้องการปูพื้นห้องครัวหรือห้องน้ำที่ต้องการความทนทานต่อความชื้น ควรเลือกพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ที่มีคุณสมบัติกันน้ำ

  • หากต้องการปูพื้นห้องนั่งเล่นที่มีเด็กหรือสัตว์เลี้ยง ควรเลือกพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ที่มีความหนาอย่างน้อย 15 มิลลิเมตร เพื่อรองรับการใช้งานหนัก

การเลือกซื้อพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ให้เหมาะกับการใช้งาน จะช่วยให้ได้พื้นไม้ที่สวยงาม หรูหรา และใช้งานได้อย่างยาวนาน

วิธีเลือกซื้อพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ให้เหมาะกับการใช้งาน

วิธีเลือกซื้อพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ให้เหมาะกับการใช้งาน พื้นไม้เอ็นจิเนียร์เป็นวัสดุปูพื้นที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน เนื่องจากให้ความสวยงาม

Read More »